Free Fire vs pubg mobile : เกมใดมีแผนที่และโหมดเกมมากกว่าในเดือนมีนาคม 2021?
สองเกม Battle Royale ที่น่าจับตามองที่สุดในโลก eSports คือ pubg mobile และ Free Fire
พวกเขามีอินเทอร์เฟซการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและสมจริง แต่จะแตกต่างกันไปในรูปแบบการเล่นเกมกราฟิกกลไกแผนที่และโหมด
บทความนี้จะเปรียบเทียบโหมดการเล่นเกมและแผนที่ในชื่อเรื่องเหล่านี้เพื่อดูว่าโหมดใดมีแผนที่และโหมดที่ดีกว่าและมากกว่า
Free Fire vs pubg mobile
แผนที่
ในโหมดคลาสสิกของ pubg mobile มีแผนที่ Battle Royale ให้เลือกมากมาย มีห้าแผนที่ในเกม: Erangel, Miramar, Sanhok, Vikendi และ Livik
Erangel มีขนาด 8×8 กม. และเช่นเดียวกับ Miramar ทำให้เป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในขณะที่ Livik มีขนาดเล็กที่สุด
Free Fire ประกอบด้วยแผนที่หลักสามแผนที่: เบอร์มิวดา, นรกและคาลาฮารี สนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดคือเบอร์มิวดา Purgatory มีขนาดเล็กกว่ามากในขณะที่ Kalahari เป็นเวทีที่เล็กที่สุด
โหมดการเล่นเกม
pubg mobile มีโหมดการเล่นและโหมดย่อยหลายโหมด นี่คือรายการสำหรับโหมดการเล่นทั้งหมดของ
pubg mobile:
- Classic (Battle Royale)
- Arcade: Quick Match, Sniper Training, War
- EvoGround: Payload 2.0, Power Armor
- Arena: Gun Game, Arena Training, Team Deathmatch, Domination, and Assault
- Metro Royale
Free Fire ยังมีโหมดการเล่นมากมายให้กับผู้เล่น อย่างไรก็ตามโหมดมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งและมีการนำโหมดใหม่เข้ามาบ่อยมาก:
- Ranked Game
- Classic
- Clash Squad (Ranked and non-Ranked)
- Big Head
สรุป: ชื่อเรื่องใดมีแผนที่และโหมดที่ดีกว่าและมากกว่า?
ในแง่ของความหลากหลายในแผนที่โดยเฉพาะแผนที่ BR นั้น pubg mobile ครองด้วยสนามประลองหลัก 5 แห่ง
ในโหมดการเล่นเกม pubg mobile เป็นผู้ชนะที่ชัดเจนเนื่องจากมีโหมดเกม 12 ถึง 13 โหมด (รวมถึงโหมดย่อย) ให้กับผู้เล่น อย่างไรก็ตาม Free Fire มีโหมดเกม 5 ถึง 6 โหมดให้ผู้เล่นได้สำรวจเท่านั้น
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
เครดิต ufabet777
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *